“สงครามราคา” กับผลที่ธุรกิจมักมองข้าม

Pam การเข้าชม: 12 2025-11-07 15:37:46 ความคิดเห็น: 0

เกี่ยวกับ TMA Group
TMA Group เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรและการให้คำปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะให้บริการครบวงจรแก่ทั้งองค์กรและบุคคล รวมถึงการสรรหาบุคลากร การบริหารจัดการทางการเงิน การจัดการภาษี การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และบริการอื่นๆ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย ยินดีต้อนรับติดต่อเราตลอดเวลา

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันรุนแรงขึ้นทุกวัน คำว่า“ราคาถูก”มักกลายเป็นอาวุธสำคัญที่หลายแบรนด์หยิบมาใช้เพื่อดึงลูกค้าให้หันมามองสินค้าและบริการของตนเอง แต่เมื่อทุกคนลดราคาแข่งกันไปเรื่อยๆ จนแทบไม่เหลือกำไร สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา ก็คือสิ่งที่เราเรียกว่า — “สงครามราคา (Price War)”

Account Services (21).png



สงครามราคาคืออะไร?

“สงครามราคา”หมายถึงสถานการณ์ที่ธุรกิจหลายรายในตลาดแข่งขันกันโดยการ ลดราคาสินค้าหรือบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อแย่งลูกค้า บางครั้งเริ่มจากคู่แข่งรายหนึ่งลดราคานิดเดียว แต่รายอื่นไม่อยากเสียส่วนแบ่งตลาด จึงลดตาม

สุดท้าย“ราคาตลาด”ลดลงพร้อมกันทั้งหมด — ใครไม่ลดก็ขายไม่ออก, ใครลดมากไปก็ขาดทุน


ทำไมธุรกิจชอบเข้าสงครามราคา

  1. ต้องการดึงลูกค้าเร็ว ๆ — โดยเฉพาะธุรกิจหน้าใหม่ที่อยากสร้างฐานลูกค้า

  2. เห็นคู่แข่งลด ก็กลัวเสียลูกค้า — จึงลดราคาตามโดยไม่วิเคราะห์ต้นทุน

  3. เชื่อว่า‘ขายเยอะ กำไรจะเยอะเอง’— ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจไม่เป็นแบบนั้นเลย


ผลเสียที่มักเกิดขึ้น

  • กำไรหาย ต้นทุนไม่พอ – เพราะขายถูกเกินไป

  • แบรนด์ด้อยค่า – ลูกค้าจำได้แค่“ของถูก”ไม่ได้จำว่า“ของดี”

  • ทำให้ตลาดเสียสมดุล – ผู้เล่นที่คุณภาพดีแต่ไม่อยากลดราคาต้องออกจากตลาด

  • ลูกค้าติดนิสัยรอโปร – ทำให้ต้องลดราคาอยู่ตลอดเพื่อให้ขายได้


แล้วธุรกิจควรทำอย่างไรแทนการลดราคา?

  1. สร้างความแตกต่าง (Value Proposition) – เช่น คุณภาพ, บริการ, ประสบการณ์ที่เหนือกว่า

  2. สื่อสารคุณค่าของสินค้า – ให้ลูกค้าเข้าใจว่าทำไมราคานี้ถึง“คุ้มค่า”

  3. ใช้กลยุทธ์ราคาอย่างชาญฉลาด – เช่น ราคาแบบ Bundling, สมาชิกสะสมแต้ม, หรือ Early Bird

  4. พัฒนาแบรนด์ระยะยาว – เพราะแบรนด์แข็งแรง คือเกราะป้องกันสงครามราคาได้ดีที่สุด


สรุป

“สงครามราคา”อาจทำให้ขายได้เร็วในระยะสั้น
แต่ในระยะยาว มักทำลายกำไรและคุณค่าของแบรนด์

ธุรกิจที่อยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่“ขายถูกที่สุด”
แต่คือผู้ที่“สร้างคุณค่าที่ลูกค้ายอมจ่าย”มากที่สุดต่างหาก


Facebook-Management YouTube Facebook-Consultant Facebook-Recruitment
ประกาศ

1. สถานีนี้ปฏิบัติตามมาตรฐานในวงการ และทุกบทความที่ถูกคัดลอกจะถูกทำเครื่องหมายชัดเจนว่าเป็นของผู้เขียนและแหล่งที่มา; 2. บทความต้นฉบับของสถานีนี้ โปรดระบุผู้เขียนและแหล่งที่มาเมื่อมีการคัดลอก เราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ไม่เคารพสิทธิของผู้เขียน; 3. การส่งบทความของผู้เขียนอาจถูกดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบรรณาธิการของเราในบางกรณีที่เหมาะสม

แสดงความคิดเห็น
ค้นหา
อันดับความนิยม
รายการแท็ก
    ติดตามเรา

    สแกนเพิ่มเราเป็นเพื่อน เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม