ในประเทศไทย หากเลิกจ้างพนักงานต้องจ่ายค่าชดเชยเท่าไหร่?

การเลิกจ้างพนักงานเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในบางสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการปรับโครงสร้างองค์กร ภาวะเศรษฐกิจ หรือเหตุผลทางธุรกิจอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นายจ้างในประเทศไทยจำเป็นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน โดยเฉพาะเรื่อง“ค่าชดเชยการเลิกจ้าง”ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของลูกจ้าง และเป็นประเด็นที่หากดำเนินการผิดพลาด อาจนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายได้

ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง เมื่อเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดร้ายแรงของลูกจ้าง โดยอัตราค่าชดเชยขึ้นอยู่กับอายุงาน ดังนี้

• ทำงาน ครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี
  👉 ได้รับค่าชดเชย 30 วันของค่าจ้างสุดท้าย

• ทำงาน ครบ 1 ปี แต่ไม่ถึง 3 ปี
  👉 ได้รับค่าชดเชย 90 วันของค่าจ้างสุดท้าย

• ทำงาน ครบ 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปี
  👉 ได้รับค่าชดเชย 180 วันของค่าจ้างสุดท้าย

• ทำงาน ครบ 6 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี
  👉 ได้รับค่าชดเชย 240 วันของค่าจ้างสุดท้าย

• ทำงาน ครบ 10 ปี แต่ไม่ถึง 20 ปี
  👉 ได้รับค่าชดเชย 300 วันของค่าจ้างสุดท้าย

• ทำงาน ครบ 20 ปีขึ้นไป
  👉 ได้รับค่าชดเชย 400 วันของค่าจ้างสุดท้าย

หมายเหตุ: ค่าจ้างสุดท้าย หมายถึง ค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับก่อนวันเลิกจ้าง รวมถึงค่าจ้างประจำ แต่ไม่รวมโอทีหรือโบนัส (เว้นแต่มีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่น)

กรณีที่ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

นายจ้าง ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย หากเลิกจ้างเนื่องจากลูกจ้างกระทำความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย เช่น

• ทุจริตต่อหน้าที่

• จงใจทำให้นายจ้างเสียหาย

• ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

• ฝ่าฝืนข้อบังคับการทำงานอย่างร้ายแรง

ทั้งนี้ นายจ้างต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าลูกจ้างมีความผิดจริง

การเลิกจ้างพนักงานในประเทศไทย นายจ้างต้องคำนึงถึงสิทธิของลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน โดยเฉพาะเรื่องค่าชดเชยซึ่งคำนวณตามอายุงาน หากดำเนินการอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงด้านข้อพิพาทแรงงาน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร การเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ

Facebook-Management YouTube Facebook-Consultant Facebook-Recruitment