ตลาดการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) คืออะไร? ทำไมธุรกิจไทยต้องรู้

Pam การเข้าชม: 10 2025-11-17 13:44:56 ความคิดเห็น: 0

เกี่ยวกับ TMA Group
TMA Group เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรและการให้คำปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะให้บริการครบวงจรแก่ทั้งองค์กรและบุคคล รวมถึงการสรรหาบุคลากร การบริหารจัดการทางการเงิน การจัดการภาษี การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และบริการอื่นๆ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย ยินดีต้อนรับติดต่อเราตลอดเวลา

การค้าระหว่างประเทศในปัจจุบันเติบโตอย่างรวดเร็ว และ“ต้นทุนภาษี”เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าในตลาดโลก สำหรับผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียน การมีข้อตกลง AFTA — ASEAN Free Trade Area หรือ ตลาดการค้าเสรีอาเซียน ถือเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ที่ทำให้การส่งออก การนำเข้า และการเชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศทำได้ง่ายขึ้น ต้นทุนต่ำลง และขยายตลาดได้มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล

Account Services (25).png



AFTA คืออะไร?

AFTA (ASEAN Free Trade Area) คือข้อตกลงการค้าเสรีของ 10 ประเทศอาเซียน มีเป้าหมายลดหรือยกเลิกอากรขาเข้าสินค้าภายในภูมิภาค เพื่อให้ประเทศสมาชิกสามารถค้าขายกันได้คล่องตัว เหมือนเป็น“ตลาดเดียว”ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศใน AFTA ได้แก่ ไทย, สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, บรูไน, เวียดนาม, ลาว, กัมพูชา, เมียนมา


ปัจจุบัน อาเซียน (ASEAN) มี 11 ประเทศสมาชิก ได้แก่  ประเทศ ติมอร์-เลสเต (Timor-Leste) กลายเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของอาเซียนแล้ว เป็นสมาชิกลำดับที่ 11 แต่ AFTA (ASEAN Free Trade Area) ตอนนี้ยังครอบคลุม 10 ประเทศเดิม เท่านั้น ติมอร์‑เลสเตอยู่ในขั้น เริ่มเข้าร่วมข้อตกลง และยังต้องปรับกระบวนการด้านการค้าให้สอดคล้องกับ AFTA ก่อนที่จะถือเป็นสมาชิกเต็มด้านการค้าเสรี



AFTA ช่วยธุรกิจอย่างไร? (ประโยชน์สำคัญ)

1) ลดภาษีนำเข้า–ส่งออกจนเกือบเป็นศูนย์ (0–5%)

  • สินค้าส่วนใหญ่ระหว่างประเทศอาเซียนมีภาษีนำเข้า 0%

  • ช่วยให้ต้นทุนสินค้าลดลง แข่งขันได้มากขึ้น

  • ผู้ประกอบการส่งออกไทยได้ประโยชน์ชัดเจน เช่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เครื่องจักร

2) ขยายตลาดได้กว่า 600 ล้านคน

  • อาเซียนมีประชากรจำนวนมาก กำลังซื้อสูง

  • บริษัทไทยสามารถใช้ไทยเป็นฐานแล้วกระจายสินค้าไปทุกประเทศอาเซียนได้ง่าย

3) กระบวนการศุลกากรง่ายขึ้น

  • ใช้กฎ CO (Certificate of Origin — ฟอร์ม D)

  • ทำให้การขนส่งสินค้าผ่านด่านเร็วและมีมาตรฐานมากขึ้น

4) ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในภูมิภาค

  • ไทยสามารถผลิตชิ้นส่วนหนึ่ง ส่งไปประกอบในเวียดนาม แล้วส่งต่อไปสิงคโปร์ได้ โดยไม่เสียภาษีซ้ำซ้อน

  • ช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติให้ตั้งโรงงานในอาเซียน

5) ธุรกิจ SMEs ได้ประโยชน์มาก

  • สามารถนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำ

  • ส่งออกสินค้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแบกรับภาษีสูง

  • ช่วยขยายตลาดธุรกิจขนาดเล็กได้ดี


ตัวอย่างอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จาก AFTA

  • อาหารและสินค้าเกษตร

  • ยานยนต์และชิ้นส่วน

  • เครื่องใช้ไฟฟ้า

  • สินค้าอุปโภคบริโภค

  • วัสดุก่อสร้าง

  • โลจิสติกส์ และอีคอมเมิร์ซ


AFTA คือกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย
ด้วยการลดภาษีเหลือ 0–5% ทำให้ธุรกิจในไทยสามารถนำเข้าสินค้าราคาถูกขึ้น ส่งออกได้ง่ายขึ้น และเชื่อมต่อการผลิตกับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ยังช่วยขยายตลาดสู่ประชากรกว่า 600 ล้านคนในอาเซียน ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะ SMEs ที่ต้องการขยายตลาดไปประเทศใกล้เคียง

หากต้องการเติบโตในภูมิภาคนี้ การเข้าใจ AFTA ถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทุกธุรกิจควรรู้


Facebook-Management YouTube Facebook-Consultant Facebook-Recruitment
ประกาศ

1. สถานีนี้ปฏิบัติตามมาตรฐานในวงการ และทุกบทความที่ถูกคัดลอกจะถูกทำเครื่องหมายชัดเจนว่าเป็นของผู้เขียนและแหล่งที่มา; 2. บทความต้นฉบับของสถานีนี้ โปรดระบุผู้เขียนและแหล่งที่มาเมื่อมีการคัดลอก เราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ไม่เคารพสิทธิของผู้เขียน; 3. การส่งบทความของผู้เขียนอาจถูกดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบรรณาธิการของเราในบางกรณีที่เหมาะสม

แสดงความคิดเห็น
ค้นหา
อันดับความนิยม
รายการแท็ก
    ติดตามเรา

    สแกนเพิ่มเราเป็นเพื่อน เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม